ในปี 2020 คริปโตและ NFT เข้ามามีอิทธิพลในวงการศิลปะ สถาปัตยกรรม แฟชั่น และอื่นๆมากขึ้น
สายผลิตต่างพากันสร้างผลงานของตนเองแล้วนำมาขายในตลาดของคริปโต และ NFT
ซึ่งที่จริงแล้ว Crypto Art คือ ศิลปะที่สร้างขึ้นใหม่แบบดิจิทัล โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain เป็นตัวกลาง
ในการทำธุรกรรมและป้องกันความปลอดภัย โดยที่ไม่ต้องพึ่งหน่วยงานใด
.
และยังมีพื้นที่ให้สำหรับการเผยแพร่ผลงานแบบเป็นหลักเป็นแหล่ง หรือคนเฉพาะกลุ่มเรียกกันว่า Marketpalce/ NFT Gateway
และยังสามารถนำมาขายในแต่ละแพลตฟอร์มได้แบบ real-time ถือเป็นช่องทางสร้างรายได้ที่กำลังเป็นที่นิยมในช่วงปีนี้
มูลค่าของ Crypto Art มาเพิ่มขึ้นตอนที่ชิ้นงานของ Beeple ถูกประมูลได้ในราคาสูงสุด
จนกลายเขาเป็นศิลปินที่ติดท็อป 3 ในประวัติศาสตร์
นับตั้งแต่นั้นงาน Crypto Art ได้กลายมาเป็นศิลปะที่มีความหลากหลาย ไม่ว่าใครก็สามารถสร้างผลงานได้
โดยมีการการันตีเรื่องความปลอดภัยในการถูก copy ผลงาน บันทึกราคาขายไว้อย่างมีหลักฐานชัดเจน
เพราะเทคโนโลยี Blockchain ทำให้เราเชื่อมั่นได้ว่า จะไม่มีการทำซ้ำ หรือลอกเลียนผลงานกันได้อย่างแน่นอน
.
หากสนใจ จะหาซื้อได้ที่ไหน ?
สามารถค้นหาผลงาน cryptoart ที่สนใจได้ในแพลตฟอร์ม Super Rare และ Makersplace
เหนือไปกว่านั้น ยังมีพื้นที่ให้จัดนิทรรศการแสดงผลงานศิลปะดิจิทัลแบบออนไลน์อีกด้วย
• Super Rare ใช้งานคล้ายกับ Instagram เพื่อให้ผู้ใช้งานได้โต้ตอบกับ cryptoart ผ่านโลกอินเตอร์เน็ต
• Makersplace เป็นแพลตฟอร์มที่จะได้พบกับผู้สร้างผลงานทั้งหมด 20,000 คนหรือมากกว่านั้น
ซึ่งปกติแล้วแพลตฟอร์มเหล่านี้มักจะใช้สกุลเงิน Ethereum ในการซื้อ-ขาย
.
Crypto Art เติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ยังมีอะไรที่ต้องพัฒนาอยู่อีกพอสมควร
เราต้องรอดูกันต่อไปว่า cryptoart ในอนาคตได้แก้ไขเทคโนโลยีอะไรไปแล้วบ้าง
และของสะสม ชิ้นงานศิลปะจะเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน
ผู้ใช้งานจะมีมากขึ้นในอนาคตเพราะพวกได้เสพผลงาน ชื่นชม ติดตาม ศิลปินที่ชอบ
หากได้พัฒนาอย่างเต็มประสิทธิภาพแล้ว โลกศิลปะในจินตนาการ จะเข้าใกล้สู่ความเป็นจริง
#NFT360 #NFT360Knowledge